วิเคราะห์หุ้นกู้ด้อยสิทธิ แสนสิริ (SIRI) 1/2568 ดอกเบี้ย 7.00-7.50%

3/1/2025

วิเคราะห์หุ้นกู้ด้อยสิทธิ แสนสิริ (SIRI) รุ่น 1/2568 ดอกเบี้ย 7.00-7.50%

วิเคราะห์หุ้นกู้ด้อยสิทธิแสนสิริ (SIRI) 1/2568 ดอกเบี้ย 7.00-7.50% พร้อมวิเคราะห์งบการเงินและความเสี่ยง
วิเคราะห์หุ้นกู้ด้อยสิทธิแสนสิริ (SIRI) 1/2568 ดอกเบี้ย 7.00-7.50% พร้อมวิเคราะห์งบการเงินและความเสี่ยง

ข้อมูลพื้นฐานของหุ้นกู้ SCG รุ่น 1/2568

ข้อมูลพื้นฐานจาก Factsheet

  • อายุตราสาร  : ไม่มีวันครบกำหนด (Perpetual)

  • อัตราดอกเบี้ยคงที่ :

    • 7.00-7.50% ต่อปี ใน 5 ปีแรก

    • หลังจาก 5 ปี จะเป็นดอกเบี้ยลอยตัว โดยอ้างอิงพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี + ส่วนเพิ่มดอกเบี้ย

  • งวดการชำระดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน

  • การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนดได้

  • มูลค่าเสนอขายรวม : ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท

  • หลักประกัน/ผู้ค้ำประกัน : ไม่มี

  • ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ : ธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน)

  • วัตถุประสงค์การใช้เงิน : นำไปชำระหนี้คืนหุ้นกู้เดิม

อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้

  • อันดับ : BBB-

  • แนวโน้ม : “คงที่”

  • จัดอันดับ : 6 ก.พ 2568 โดย บจก.ทริสเรทติ้ง

รายละเอียดอื่น

  • วันออกหุ้นกู้ : 26 มิถุนายน 2568

  • วันครบกำหนดไถ่ถอน : ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท (Perpetual) หรือผู้ถือหุ้นกู้ ใช้สิทธิถอนตามหลักเกณฑ์  

  • ประเภทการเสนอขาย : บุคคลทั่วไป

  • ผู้จัดจำหน่าย :ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

ความเสี่ยง

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

  1. ความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้:

    • หากบริษัทประสบปัญหาทางการเงิน อาจส่งผลต่อการจ่ายดอกเบี้ยและคืนเงินต้น

    • หุ้นกู้นี้มีสถานะ "ด้อยสิทธิ" ซึ่งหมายความว่าหากบริษัทล้มละลาย เจ้าหนี้ประเภทอื่นจะได้รับชำระก่อน

  2. ความเสี่ยงจากการเลื่อนชำระดอกเบี้ย:

    บริษัทสามารถเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยได้โดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับดอกเบี้ยในบางช่วงเวลา

  3. ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง:

    หุ้นกู้ประเภทนี้อาจไม่มีสภาพคล่องสูงในตลาดรอง หากต้องการขายอาจขายได้ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนไป

  4. ความเสี่ยงจากการถูกไถ่ถอนก่อนกำหนด:

    หากอัตราดอกเบี้ยในตลาดลดลง บริษัทอาจใช้สิทธิ์ไถ่ถอนก่อนกำหนด ทำให้ผู้ลงทุนต้องนำเงินไปลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่า

ระดับความเสี่ยง 7 - หุ้นกู้แสนสิริ 1/2568
ระดับความเสี่ยง 7 - หุ้นกู้แสนสิริ 1/2568

ระดับความเสี่ยง

  • ระดับความเสี่ยง : 7

บทวิเคราะห์ (เป็นเพียงการวิเคราะห์ส่วนตัวเท่านั้น)

เราจะวิเคราะห์งบการเงินของบริษัทกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง

จากข้อมูลงบแสดงฐานะการเงินของบริษัท 3 ปี ย้อนหลัง พบว่า บริษัทมีสินทรัพย์รวมลดลงในปี 2566 อยู่ที่ ประมาณ 893,601 ล้านบาท และในไตรมาสที่ 3 ในปี 2567 มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 867,046 ล้านบาท ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีการลดลงอย่างต่อเนื่อง

สรุปฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานตามงบการเงินย้อนหลัง แสนสิริ 1/2568
สรุปฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานตามงบการเงินย้อนหลัง แสนสิริ 1/2568

จากข้อมูลงบแสดงฐานะการเงินของบริษัท 3 ปี ย้อนหลัง พบว่า

  • บริษัทมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นในปี 2566 ประมาณ 147,303 ล้านบาท โดยมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นมาประมาณ 13.47%

  • คาดการณ์อาจเกิดจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น

  • และในไตรมาสที่ 3 ในปี 2567 มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 151,150 ล้านบาท

  • และสอดคล้องกับหนี้สินรวมของบริษัทในปี 2566 อยู่ที่ 99,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมาประมาณ 16.50%

  • บริษัทครบกำหนดชำระเงินทำให้มีหนี้สินเพิ่มขึ้น และส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น

สัดส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยของผู้ออกหุ้นกู้ แสนสิริ 1/2568
สัดส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยของผู้ออกหุ้นกู้ แสนสิริ 1/2568

งบกำไรขาดทุนของบริษัทในปี 2566 นั้น

  • มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 39,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็น 10%

  • และลดลงในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เหลือเพียง 29,841 ล้านบาท

  • ซึ่งส่งผลให้มี EBITDA ลดลงอย่ามีนัยยะสำคัญ

  • และกำไรสำหรับงวดที่ลดลงอย่ามากคาดการณ์ว่าอาจจะมาจากการที่ครบกำหนดจ่ายดอกเบี้ยสถาบันการเงิน ดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่ครบกำหนดต่างๆ

    จะเห็นสัดส่วนภาระหนี้ตามตารางด้านล่างนี้

การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน

  1. Current Ratio (อัตราส่วนสภาพคล่อง) : ปี 2567 มีอัตราส่วนอยู่ที่ 2.54 เท่า โดยค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมอยู่ที่ 1.77 ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยอยู่มาก อาจเป็นผลมาจากการที่มีสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น

  2. ICR (ความสามารถจ่ายดอกเบี้ย) : 2.4 ลดลงจากปี 2566 ที่ 2.59 และยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย แต่ยังสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ไม่สูงมากนัก

  3. D/E Ratio (หนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม :) ที่ 2.14 เท่า ถือว่าใช้เลเวอเรจสูง อาจทำให้มีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

อัตราส่วนทางการเงินของผู้ออกหุ้นกู้ แสนสิริ 1/2568
อัตราส่วนทางการเงินของผู้ออกหุ้นกู้ แสนสิริ 1/2568

วิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ

ข้อดี-ข้อเสียของหุ้นกู้ SCG

✅ ข้อดี

  1. อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นสูง (7.00-7.50%) เทียบกับพันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้อื่นในตลาด

  2. โอกาสได้รับผลตอบแทนระยะยาว หากบริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ดี

  3. มีโอกาสไถ่ถอนก่อนกำหนด หลังจาก 5 ปี หากสถานการณ์เอื้อต่อผู้ออกหุ้นกู้

  4. ตราสารที่มีลักษณะคล้ายทุน ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับการกระจายพอร์ต

❌ ข้อพิจารณา

  1. ไม่มีการรับประกันเงินต้น (Perpetual Bond อาจไม่มีวันไถ่ถอน)

  2. ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิ์เลื่อนการจ่ายดอกเบี้ย โดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้ความเสี่ยงสูง

  3. อันดับเครดิต BBB- อยู่ในระดับเสี่ยงปานกลาง ควรพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้

  4. ตลาดรองสภาพคล่องต่ำ อาจขายต่อได้ยากหากต้องการเงินคืนก่อนกำหนด

  5. ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์ หากตลาดชะลอตัว บริษัทอาจได้รับผลกระทบ

หากคุณรับความเสี่ยงเหล่านี้ได้และต้องการรายรับที่มั่นคง การลงทุนในหุ้นกู้นี้ถือว่าน่าสนใจ

แต่หากคุณต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าหรือต้องการความยืดหยุ่นในการขายก่อนครบกำหนดเราไม่แนะนำให้ซื้อ

สรุป: ควรลงทุนในหุ้นกู้นี้หรือไม่?

✅ เหมาะกับนักลงทุนที่:

  • นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง และต้องการกระจายพอร์ต

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการ ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยทั่วไป และสามารถรับความเสี่ยงจากการเลื่อนจ่ายดอกเบี้ยและไม่มีวันครบกำหนดที่แน่นอนได้

⚠️ อาจไม่เหมาะสำหรับ:

  • นักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องสูง (อาจขายยากในตลาดรอง)

  • ไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการ ความแน่นอนของเงินต้นและดอกเบี้ย เนื่องจากเป็นหุ้นกู้ด้อยสิทธิและอาจไม่ได้รับเงินคืนหากบริษัทมีปัญหาทางการเงิน