SET Index คืออะไร? คู่มือเข้าใจตลาดหุ้นไทยฉบับง่าย ๆ สำหรับมือใหม่

หากคุณเคยเปิดข่าวเศรษฐกิจ การเงิน หรือแม้แต่ฟังวิทยุยามเช้า คุณอาจเคยได้ยินคำว่า “SET Index” อยู่บ่อย ๆ เช่น วันนี้ SET Index ปิด+ 15 จุด, ตลาดหุ้นไทยร่วง SET Idex ร่วง 1,400 ซึ่งบางคนอาจจะไม่รู้ว่าความหมายที่แท้จริงมันคืออะไร และช่วยวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจไทยได้อย่างไร ดังนั้น เราไปเรียนรู้ด้วยกันเลยดีกว่าค่ะ

SET Index คืออะไร

SET Index คือ ดัชนีชี้วัดราคาหุ้นโดยรวมของบริษัททั้งหมดที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ทั้งหมด โดยจะสะท้อนราคาหุ้นบริษัทเอกชนทั้งหมดในตลาดกว่า 600 ตัว ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นการมองภาพรวมของตลาดว่าวั้นนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีแนวโน้มเป็นอย่างไร โดยจะเปรียบเทียบกับมูลค่า ณ วันนั้น กับมูลค่า ณ วันเริ่ม คือ วันที่ 30 เมษายน 2518 เป็นวันที่เปิดตลาดซื้อขายครั้งแรก โดยเริ่มต้นที่ 100 จุด

SET Index คำนวณอย่างไร

มูลค่าตลาด หรือ "Market Cap" คือ ราคาหุ้นคูณด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมด

การคำนวณ SET Index จะนำมูลค่าตลาดของทุกบริษัทมา ถ่วงน้ำหนัก (Weighting) โดยบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงๆ อย่าง ปตท, AOT, CPALL หรือบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคาร ก็จะมี อิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของ SET Index มากกว่าบริษัทขนาดเล็กครับ ดังนั้นถ้าหุ้นขนาดใหญ่เหล่านี้ขึ้นหรือลง ก็จะส่งผลให้ SET Index ขยับตามไปด้วยค่อนข้างมาก

ประเภทของ SET Index และดัชนีอื่นๆ ที่ควรทำความรู้จัก

นอกจาก SET Index ที่เป็นตัวแทนภาพรวมของตลาดหุ้นไทยแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ยังมี "ดัชนี" อีกหลายตัวที่ช่วยให้เรามองเห็นภาพที่เจาะลึกมากขึ้น

SET 50 Index

ดัชนี SET50 Index คือ ดัชนีที่คำนวณจากหุ้น 50 ตัวแรกที่มีมูลค่าตลาดและสภาพคล่องสูงสุดในตลาด เป็นตัวแทนของบริษัทขนาดใหญ่ชั้นนำของประเทศ เช่น ปตท., AOT, CPALL, SCC, KBANK เป็นต้น หุ้นในกลุ่มนี้มักจะมีผลกระทบต่อ SET Index ค่อนข้างมาก

SET 100 Index

ดัชนี SET100 Index ก็คือ ดัชนีหุ้นที่คัดเอา 100 หุ้นขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดและสภาพคล่องสูงสุดในตลาดมาไว้ด้วยกัน เป็นตัวแทนของหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยที่หุ้นใน SET50 ก็จะอยู่ใน SET100 อีกด้วย

ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรม (Sector Index)

นอกจากดัชนีที่แบ่งตามขนาดของบริษัทแล้ว ยังมี ดัชนีที่แบ่งตาม "กลุ่มธุรกิจ" อีกด้วย เช่น

• SET Energy & Utilities Index: ดัชนีกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค

• SET Banking Index: ดัชนีกลุ่มธนาคาร

• SET Commerce Index: ดัชนีกลุ่มพาณิชย์

• SET Property & Construction Index: ดัชนีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

การดูดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมจะช่วยให้เราเข้าใจว่ากลุ่มธุรกิจไหนกำลัง "เติบโต" หรือ "ชะลอตัว" ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเลือกลงทุนในหุ้นที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่กำลังไปได้ดี

ทำไมต้องรู้จัก SET Index?

คุณอาจจะสงสัยว่า ถ้าเราจะลงทุนแค่หุ้นตัวที่เราสนใจ เราจำเป็นต้องรู้เรื่อง SET Index ด้วยเหรอ? คำตอบคือ จำเป็นมากๆ เพราะ SET Index ไม่ได้เป็นแค่ตัวเลข แต่เป็น "เข็มทิศ" ที่ช่วยให้เราเดินทางในโลกของการลงทุนได้อย่างมีทิศทาง

1. ใช้สำหรับวิเคราะห์ภาพรวมของตลาดหุ้น

การดู SET Index ช่วยให้วิเคราะห์ภาพรวมของตลาดได้ดี ถ้า SET Index อยู่ในระดับที่สูงและมีแนวโน้มที่ดี ก็แสดงว่าตลาดหุ้นโดยรวมอยู่ในภาวะที่แข็งแรง เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดี และนักลงทุนมีความเชื่อมั่น แต่ถ้า SET Index มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงขาลง หรือเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความท้าทาย

2. ใช้เปรียบเทียบผลตอบแทนของพอร์ตลงทุน

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราลงทุนได้ดีแล้วหรือยัง? การนำ "ผลตอบแทนของพอร์ตลงทุนของเรา" ไปเปรียบเทียบกับ "ผลตอบแทนของ SET Index" เป็นวิธีที่ดีที่สุด

• ถ้าพอร์ตของเราเติบโตได้มากกว่า SET Index แสดงว่าเรา "ทำผลงานได้ดีกว่าตลาด"

• ถ้าพอร์ตของเราเติบโตได้น้อยกว่า SET Index แสดงว่าเรา "ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าตลาด"

การเปรียบเทียบนี้จะช่วยให้เราเห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของพอร์ตลงทุน และสามารถนำไปปรับปรุงแผนการลงทุนของเราให้ดียิ่งขึ้น

3. ใช้เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจลงทุน

การเคลื่อนไหวของ SET Index สะท้อนถึง "การลงทุน" ของนักลงทุนโดยรวมในขณะนั้นได้เป็นอย่างดี ถ้า SET Index ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็อาจเป็นช่วงที่ตลาดอยู่ในภาวะ "คึกคัก" (Bull Market) แต่ถ้า SET Index ปรับตัวลงอย่างรุนแรง ก็อาจเป็นช่วงที่ตลาดอยู่ในภาวะ "ซบเซา" (Bear Market) . การเข้าใจภาวะตลาดเหล่านี้จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่า เราควรเข้าลงทุน, ชะลอการลงทุน, หรือขายทำกำไรดีกว่า

สรุป

SET Index ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนหน้าจอ แต่เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในการลงทุนในตลาดหุ้นไทย การทำความเข้าใจมันจะช่วยให้เรามีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่ดีขึ้น และสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างดีขึ้น ดังนั้นก่อนที่คุณจะซื้อหรือขายหุ้นตัวไหน อย่าลืมที่จะลองมองดู "ภาพรวม" ของตลาดผ่าน SET Index เสมอ เพราะการรู้ทิศทางของลม จะช่วยให้เราแล่นเรือได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นในโลกของการลงทุนที่ซับซ้อน