Embedded Finance & Open Finance: เปลี่ยนทุกแอปให้เป็นธนาคารในมือคุณ!

7/29/2025

Embedded Finance & Open Finance เปิดเกมให้ทุกแอปพลิเคชันเป็นธนาคารได้

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว บริการทางการเงินก็กำลังปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตดิจิทัลของเรามากขึ้น ทุกคนเคยรู้สึกไหมคะว่าการจัดการเรื่องเงินทองนั้นยุ่งยากซับซ้อนมาก ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน การชำระบิล การขอสินเชื่อ หรือแม้แต่การวางแผนการลงทุน ทุกอย่างดูเหมือนจะแยกส่วนและต้องเข้าถึงผ่านแอปพลิเคชันที่แตกต่างกัน ทำให้ยากต่อความเข้าใจ

แต่ปัจจุบันเรามีแนวคิดใหม่หรือเทรนด์ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงทางการเงิน คือ Embedded Finance (การเงินแบบฝังตัว) และ Open Finance (การเงินแบบเปิด) ซึ่งจะทำให้บริการทางการเงินต่าง ๆ ถูกผนวกรวมเข้ากับแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันที่เราใช้งานในชีวิตประจำวัน จนทุกแอปพลิเคชันสามารถทำหน้าที่คล้าย "ธนาคาร" ให้กับคุณได้โดยที่แทบไม่รู้ตัวเลยล่ะค่ะ

Embedded Finance: บริการการเงินที่ซ่อนอยู่ในแอปพลิเคชันประจำวัน

ลองจินตนาการดูนะคะ ว่าเรากำลังเลือกซื้อสินค้าในแอปพลิเคชัน E-commerce และเจอสินค้าที่ถูกใจแต่ยังไม่พร้อมจ่ายเงินก้อน แทนที่จะต้องออกจากแอปเพื่อไปยื่นเรื่องขอสินเชื่อหรือผ่อนชำระ คุณสามารถกดเลือก ผ่อนชำระสินค้า หรือ ขอสินเชื่อชำระทันที ได้เลยภายในแอปนั้น ๆ โดยไม่ต้องกรอกเอกสารซ้ำซ้อนหรือเปลี่ยนไปใช้งานแอปอื่น ถือเป็นการอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ทันท่วงที หรือการเดินทางด้วยแอปเรียกรถที่ก่อนคุณจะกดเรียกแท็กซี่เพื่อไปสนามบิน แอปอาจจะเสนอตัวเลือกให้ซื้อประกันการเดินทาง แบบรายเที่ยวได้ทันที ช่วยให้เดินทางได้อย่างสบายใจโดยไม่เสียเวลาไปกับการค้นหาและซื้อประกันแยกต่างหากเลยล่ะค่ะ และกรณีสำหรับผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ที่ใช้งานแพลตฟอร์ม E-commerce อาจได้รับการเสนอ สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง แบบรวดเร็วทันใจ โดยพิจารณาจากข้อมูลการซื้อขายบนแพลตฟอร์มนั้น ๆ ทำให้ร้านค้ามีเงินทุนหมุนเวียนได้ทันทีที่ต้องการ โดยทั้งหมดนี้ผู้ใช้ไม่ต้องเข้าแอปธนาคาร ไม่ต้องกรอกข้อมูลซ้ำ ทุกอย่างเสร็จในที่เดียว นี่แหละค่ะ คือหัวใจของ Embedded Finance ซึ่งปัจจุบันสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด เนื่องจากมีความสะดวกสบายและรวดเร็ว, เข้าถึงได้ง่ายขึ้น,ลดขั้นตอนในการทำธุรกรรมและยังขยายโอกาสให้กับผู้ที่เข้าถึงสินเชื่อของธนาคารได้ยากอีกด้วยค่ะ

Open Finance: เปิดโลกข้อมูลการเงินให้กว้างกว่าเดิม

แล้ว Open Finance ล่ะ คืออะไร? ถ้าเปรียบ Embedded Finance เป็นการนำบริการการเงินไปใส่ในแอปต่าง ๆ Open Finance ก็คือการ เปิดประตูข้อมูลทางการเงินให้กว้างขึ้น ไปอีกขั้นค่ะ ปกติแล้วข้อมูลทางการเงินของเราจะถูกเก็บแยกกันในแต่ละสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการลงทุนจากบริษัทหลักทรัพย์ ข้อมูลประกันจากบริษัทประกัน หรือข้อมูลบำนาญจากกองทุนต่าง ๆแต่ Open Finance จะทำให้ข้อมูลเหล่านี้สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ ผ่านช่องทางที่ปลอดภัยและมีมาตรฐานที่เรียกว่า API (Application Programming Interface) ซึ่งเปรียบเสมือนสะพานที่เชื่อมข้อมูลระหว่างกัน โดยที่ ผู้ใช้ เป็นผู้ให้ความยินยอมว่าจะอนุญาตให้ข้อมูลของตัวเองถูกเชื่อมโยงไปใช้ได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวเราเอง

แล้ว Open Finance จะมาช่วยอะไรเราได้บ้าง?

  • เห็นภาพรวมการเงินชัดเจนขึ้น: คุณสามารถรวมข้อมูลการลงทุนจากหลาย ๆ ที่ ข้อมูลประกันภัยทั้งหมด และข้อมูลบำนาญมารวมไว้ในที่เดียว ทำให้คุณเห็นภาพรวมฐานะทางการเงินและสุขภาพการเงินของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น วางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • จัดการการเงินได้ฉลาดกว่าเดิม: เมื่อข้อมูลเชื่อมโยงกัน แอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ เหมาะกับคุณจริง ๆ เช่น แนะนำการลงทุนที่ตรงกับความเสี่ยงที่คุณรับได้ หรือแนะนำประกันที่คุ้มครองความต้องการของคุณโดยเฉพาะ

  • นวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ: การที่ข้อมูลเปิดกว้างมากขึ้น จะกระตุ้นให้เกิดผู้ให้บริการทางการเงินรายใหม่ ๆ และนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งจะส่งผลให้เราในฐานะผู้บริโภคมีตัวเลือกที่หลากหลายและดีกว่าเดิม

ความแตกต่างระหว่าง Embedded Finance และ Open Finance

  • Embedded Finance: เหมือนการ "ย้าย" ธนาคารและบริการทางการเงินไปอยู่ในแอปที่คุณใช้บ่อย ๆ ทำให้คุณไม่ต้องสลับแอปไปมา จบทุกเรื่องได้ในที่เดียว

  • Open Finance: เหมือนการ "เปิด" ข้อมูลทางการเงินของคุณให้เชื่อมโยงถึงกันได้ เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมการเงินชัดเจนขึ้น และได้รับบริการที่ตรงใจมากขึ้น โดยที่คุณเป็นคนควบคุมข้อมูลด้วยตัวเอง

ภาพรวมสรุป Embedded Finance และ Open Finance

ทั้ง Embedded Finance และ Open Finance กำลังพลิกโฉมโลกการเงินให้เข้ากับไลฟ์สไตร์ของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ การทำธุรกรรมทางการเงินจะง่าย สะดวก และปลอดภัยกว่าเดิมมาก ๆ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ประโยชน์ก็จะตกอยู่กับเราทุกคน ในฐานะผู้ใช้งานที่จะได้เข้าถึงบริการทางการเงินที่ดีขึ้น เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคนมากขึ้น และยังช่วยให้เราบริหารจัดการเงินได้อย่างชาญฉลาดอีกด้วยค่ะ