การทำงานของกลยุทธ์ DCA

หัวใจของ DCA คือการ "เฉลี่ยต้นทุน" ลองจินตนาการว่าเราซื้อหุ้นตัวหนึ่งทุกเดือนเป็นเวลา 1 ปี สมมติว่าราคาหุ้นผันผวน ทั้งขึ้นและลง การลงทุนแบบ DCA จะทำให้เราได้จำนวนหุ้นที่แตกต่างกันในแต่ละเดือน:

• เมื่อราคาหุ้นสูง: เราจะได้จำนวนหุ้นน้อยลง

• เมื่อราคาหุ้นต่ำ: เราจะได้จำนวนหุ้นมากขึ้น

เมื่อเวลาผ่านไป ต้นทุนเฉลี่ยต่อหุ้นของเราจะไม่ใช่ราคาที่สูงที่สุด แต่จะเป็นราคาที่เฉลี่ยกันไปตลอดทั้งปี ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วต้นทุนเฉลี่ยจะต่ำกว่าราคาที่เราซื้อ ณ จุดสูงสุด ทำให้เรามีโอกาสทำกำไรได้ง่ายกว่า

DCA หรือ Dollar-Cost Averaging คือกลยุทธ์การลงทุนแบบสม่ำเสมอ เป็นการนำเงินจำนวนเท่า ๆ กันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เราเลือก โดยไม่ว่าจะราคาขึ้นหรือลง เราก็ยังคงลงทุนเท่าเดิมอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเทคนิคนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่มาจากการจับจังหวะตลาดผิดพลาดได้ เพราะเราไม่ได้ลงทุนแบบก้อนใหญ่เพียงครั้งเดียว แต่เป็นการทยอยลงทุนไปเรื่อย ๆ จะทำให้ราคาหุ้นที่ซื้อนั้น มีราคาต้นทุน "ถัวเฉลี่ย" ให้สามารถได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาวและทำให้พอร์ตมีความปลอดภัยมากกว่า

กลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง?

ข้อดีของการลงทุนแบบ DCA

• ไม่ต้องจับจังหวะตลาด (Timing the Market): นี่คือจุดเด่นที่สุดของ DCA เราไม่ต้องกังวลว่าจะต้องซื้อตอนราคาถูกที่สุดและขายตอนราคาแพงที่สุด เพราะไม่มีใครสามารถทำแบบนั้นได้อย่างแม่นยำตลอดเวลา DCA จึงช่วยตัดความกังวลนี้ออกไป

• ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด: การทยอยลงทุนช่วยกระจายความเสี่ยงจากราคาที่ขึ้นลง ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าหากซื้อไปแล้วราคาจะตกลงทันที

• สร้างวินัยการลงทุนระยะยาว: การลงทุนอย่างสม่ำเสมอทำให้เรามีวินัยในการออมเงินในระยะยาว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความมั่งคั่ง

ใช้เงินเริ่มต้นไม่มาก ; เนื่องจากการลงทุนแบบ DCA เป็นการลงทุนระยะยาว จึงสามารถลงทุนได้แบบสบายใจ โดยใช้เงินเริ่มต้นไม่สูงมากนัก

ข้อเสียของการลงทุนแบบ DCA

• ไม่เหมาะกับสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง: หากคุณลงทุนในสินทรัพย์ที่มีราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนแบบ DCA อาจทำให้ต้นทุนเฉลี่ยของคุณสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจพลาดโอกาสทำกำไรได้

• ไม่เหามะสำหรับผู้ที่ต้องการได้ผลตอบแทนระยะสั้น: DCA เป็นการลงทุนระยะยาว หากคุณหวังผลตอบแทนที่สูงในเวลาอันรวดเร็ว กลยุทธ์นี้อาจไม่ตอบโจทย์

• ต้องมีวินัยและความอดทนในการลงทุน: เนื่องจากการลงทุนแบบ DCA เป็นการลงทุนแบบหวังผลตอบแทนในระยะยาว และต้องมีวินัยในการออมสูงมาก หากนักลงทุนไม่ลงทุนอย่างเนื่องอาจส่งผลให้ไม่ได้ผลตอบแทนตามที่ต้องการได้

DCA เหมาะกับใครบ้าง?

• มือใหม่ที่เริ่มต้นลงทุน: การลงทุนแบบ DCA จะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดและไม่ต้องวิเคราะห์ตลาดมากนัก

• คนที่มีรายได้ประจำและต้องการสร้างวินัย: เหมาะสำหรับคนที่อยากออมเงินและต่อยอดให้งอกเงย

• คนที่ไม่มีเวลาติดตามตลาด: หากคุณมีงานยุ่งและไม่สามารถเฝ้าดูราคาหุ้นได้ DCA คือคำตอบ

• นักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยง: การลงทุนแบบ DCA ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนจากตลาด

สรุปการลงทุนแบบ DCA

DCA เป็นเทคนิคที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้โดยไม่ต้องเครียดกับการจับจังหวะตลาด เน้นความสม่ำเสมอ ทำให้สามารถสร้างวินัยการออมและการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญเหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้ที่มีประสบการณ์อีกด้วย