มือใหม่เริ่มต้นลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องรู้อะไรบ้าง?

7/20/2025

มือใหม่หัดลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างไร ให้พอร์ตปัง

เนื้อหาในบทความนี้ (คลิกเพื่ออ่านพาร์ทที่สนใจได้เลย!!)

  1. สินทรัพย์ดิจิทัลคืออะไร? และความน่าสนใจในการลงทุน

  2. ข้อดี-ข้อเสีย สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

  3. ข้อแนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่

สวัสดค่า ช่วงนี้หลายคนคงเคยได้ยินข่าว "Bitcoin" หรือ "คริปโท" ที่กำลังเป็นกระแสในโลกโซเชี่ยลอยู่ในตอนนี้ และกำลังเป็นเทรนด์มาแรงมากในช่วงนี้เลยค่ะ แล้วเจ้าคริปโทเนี่ยมันคืออะไร ทำไมคนถึงกล้าเสี่ยงกับสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตนแบบนี้กันนะ เราไปทำความรู้จักกันเลยดีกว่าค่ะ

สินทรัพย์ดิจิทัลคืออะไร?

Bitcoin หรือ คริปโท ที่ปัจจุบันเราได้ยินอย่างคุ้นหู้นั้น เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่ไม่สามารถจับต้องได้ แต่มีมูลค่าและสามารถเป็นเจ้าของ ซื้อขาย หรือแลกเปลี่ยนกันได้ในโลกออนไลน์ ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักคือ

  • สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency): ตัวอย่างที่คุ้นหูที่สุดน่าจะเป็น บิทคอยน์ (Bitcoin) หรือ อีเธอเรียม (Ethereum) สกุลเงินเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในโลกออนไลน์ โดยไม่ผ่านตัวกลางอย่างธนาคารที่เราคุ้นเคยกัน

  • สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ (NFTs - Non-Fungible Tokens): กลุ่มนี้มีความพิเศษตรงที่ แต่ละชิ้นจะมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ไม่สามารถทำซ้ำหรือลอกเลียนแบบได้ ลองนึกถึงงานศิลปะดิจิทัล รูปภาพ คลิปวิดีโอ หรือแม้กระทั่งทรัพย์สินเสมือนจริงในเกม พวกนี้ก็จัดเป็น NFT ได้เหมือนกัน และเจ้าของก็จะได้รับการยืนยันสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล

  • โทเคนดิจิทัล (Digital Tokens): เป็นหน่วยดิจิทัลที่แสดงถึงสิทธิ์หรือผลประโยชน์บางอย่าง เช่น สิทธิ์ในการเข้าถึงบริการบางอย่าง หรือสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของสินทรัพย์บางส่วน ยกตัวอย่างเช่น บางบริษัทอาจออกโทเคนดิจิทัลเพื่อระดมทุน

ความน่าสนใจของสินทรัพย์ดิจิทัล

  • เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีดิจิทัล: โลกของเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว สินทรัพย์ดิจิทัลจึงเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่เข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

  • โอกาสในการสร้างมูลค่า: ในช่วงที่ผ่านมา สินทรัพย์ดิจิทัลหลายชนิดมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ที่ลงทุนมองเห็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่ามีความเสี่ยงสูงเช่นกัน

  • เข้าถึงง่าย: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถทำได้ง่ายขึ้น เข้าถึงได้จากทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงโอกาสนี้ได้

ตัวอย่างสินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในปัจจุบัน

  1. บิทคอยน์ (Bitcoin - BTC) เป็นสกุลเงินดิจิทัลสกุลแรกของโลก และมีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นระบบการเงินแบบ peer-to-peer (ผู้ใช้ส่งเงินถึงกันโดยตรง) โดยไม่ผ่านตัวกลางอย่างธนาคาร

    • ข้อดี: เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้าง มีสภาพคล่องสูง (ซื้อขายง่าย) และมีจำนวนจำกัด (ทำให้มีคุณสมบัติคล้ายทองคำดิจิทัล)

    • ข้อเสีย: ราคาผันผวนสูงมาก เคยขึ้นไปสูงสุดและตกลงมาอย่างรวดเร็วหลายครั้ง

    • ตัวอย่างการใช้งาน: ใช้ซื้อสินค้าและบริการที่รองรับ, เก็บเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลระยะยาว

  2. อีเธอเรียม (Ethereum - ETH) เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่อนุญาตให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Applications - DApps) และ Smart Contracts (สัญญาอัจฉริยะ) สกุลเงินของแพลตฟอร์มนี้เรียกว่า "Ether" (ETH)

    • ข้อดี: มีระบบนิเวศขนาดใหญ่และเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นรากฐานสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชนหลายอย่าง (เช่น DeFi, NFTs)

    • ข้อเสีย: ราคาผันผวนสูงเช่นกัน และค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมอาจสูงในช่วงเวลาที่เครือข่ายมีการใช้งานหนาแน่น

    • ตัวอย่างการใช้งาน: ใช้เป็นค่าแก๊ส (Gas Fee) ในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum, ใช้เป็นสินทรัพย์ค้ำประกันในระบบ DeFi, หรือเก็บเป็นสินทรัพย์ลงทุน

  3. NFTs (Non-Fungible Tokens) : อย่างที่เคยกล่าวไปค่ะ NFTs คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ แต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นเจ้าของได้เพียงคนเดียว

    • ข้อดี: แสดงความเป็นเจ้าของผลงานดิจิทัลที่ไม่ซ้ำใคร, มีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าหากเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงหรือมีคุณค่าทางศิลปะ

    • ข้อเสีย: มูลค่าขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดสูงมาก (บางชิ้นราคาพุ่งสูงลิ่ว บางชิ้นอาจไม่มีมูลค่าเลย), สภาพคล่องต่ำ (ขายคืนยากกว่าสกุลเงินดิจิทัล), อาจมีข้อกังวลเรื่องลิขสิทธิ์และการละเมิดลิขสิทธิ์

    • ตัวอย่างการใช้งาน: ซื้อขายงานศิลปะดิจิทัล, ของสะสมดิจิทัล, ไอเท็มในเกม, ที่ดินเสมือนจริงใน Metaverse

ข้อดีและข้อควรพิจารณาในการลงทุนใน สินทรัพย์ดิจิทัล

ข้อดีของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

  • ศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนสูง: สินทรัพย์ดิจิทัลหลายชนิดมีโอกาสในการเติบโตของมูลค่าอย่างรวดเร็ว (แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงสูงเช่นกัน)

  • เข้าถึงง่ายและรวดเร็ว: สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ จากที่ไหนก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต

  • เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคต: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นการมีส่วนร่วมในเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของนวัตกรรมใหม่ๆ

  • กระจายความเสี่ยง: สามารถเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการกระจายพอร์ตการลงทุน นอกเหนือจากสินทรัพย์ดั้งเดิม

ข้อเสียและความเสี่ยงของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

  • ความผันผวนสูงมาก: ราคาขึ้นลงรุนแรงและรวดเร็ว ทำให้มีโอกาสขาดทุนสูงหากตัดสินใจผิดพลาดหรือไม่สามารถรับความเสี่ยงได้

  • ความเสี่ยงด้านกฎหมายและข้อบังคับ: กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลยังอยู่ในช่วงของการพัฒนา อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาและความน่าเชื่อถือ

  • ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์: หากเก็บไว้ใน Exchange หรือกระเป๋าที่ไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ อาจมีความเสี่ยงถูกแฮกหรือถูกขโมย

  • ความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวง: มีการหลอกลวงหรือแชร์ลูกโซ่ที่แอบอ้างสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมาก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

  • ความซับซ้อนทางเทคนิค: สำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยี อาจรู้สึกว่ามีความซับซ้อนในการทำความเข้าใจและใช้งาน

  • ขาดการกำกับดูแลที่ชัดเจน: แม้จะมีหน่วยงานกำกับดูแลในบางประเทศ แต่ในภาพรวมยังขาดการกำกับดูแลที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก

วิธีการเริ่มลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลโดยทั่วไปมีหลายวิธีค่ะ ที่นิยมและเข้าถึงง่ายที่สุดคือการซื้อขายผ่าน "ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล" หรือที่เรียกว่า "Exchange" นั่นเองค่ะ โดยมีขั้นตอนง่ายๆดังนี้ค่ะ

  1. เลือกศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ที่น่าเชื่อถือ: โดยในประเทศไทย มี Exchange ที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เช่น Bitkub, Satang Pro, Zipmex (ควรตรวจสอบสถานะล่าสุดของแต่ละ Exchange ก่อนใช้งานเสมอ) โดยสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนการเปิดบัญชีเสมอ ดังนี้

    • การกำกับดูแล: ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่?

    • ค่าธรรมเนียม: มีค่าธรรมเนียมในการฝาก/ถอน/ซื้อ/ขายเท่าไหร่?

    • ความปลอดภัย: มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีแค่ไหน (เช่น 2FA, Cold Storage)?

    • สินทรัพย์ที่รองรับ: รองรับสินทรัพย์ดิจิทัลที่เราสนใจจะลงทุนหรือไม่?

    • การบริการลูกค้า: มีช่องทางติดต่อและช่วยเหลือที่ดีหรือไม่?

  2. เปิดบัญชีและยืนยันตัวตน (KYC - Know Your Customer) โดยจะเหมือนกับการเปิดบัญชีธนาคารหรือบัญชีหุ้นค่ะ ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว อัปโหลดเอกสารยืนยันตัวตน (บัตรประชาชน/พาสปอร์ต) และอาจมีการยืนยันใบหน้า ซึ่งขั้นตอนนี้สำคัญมากเพื่อความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎหมายการฟอกเงิน

  3. ฝากเงินเข้าบัญชี หลังจากยืนยันตัวตนสำเร็จ ก็สามารถฝากเงินบาท (Fiat Money) เข้าไปในบัญชี Exchange ของเราได้ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีโอนเงินผ่านธนาคาร

  4. เริ่มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เมื่อเงินเข้าบัญชีแล้ว เราก็สามารถใช้เงินบาทนั้นไปซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลที่เราสนใจได้ทันที

    • ตัวอย่าง: หากต้องการซื้อ Bitcoin ก็เลือกคู่เทรด BTC/THB แล้วระบุจำนวนเงินที่ต้องการซื้อ (เช่น ซื้อ Bitcoin มูลค่า 1,000 บาท)

  5. เก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัล: หลังจากซื้อแล้ว สินทรัพย์ดิจิทัลจะอยู่ในกระเป๋า (Wallet) ของเราบน Exchange ข้อแนะนำ: หากเป็นเงินจำนวนมาก และต้องการเก็บรักษาระยะยาว ควรพิจารณาโอนไปเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลส่วนตัว (Hardware Wallet หรือ Cold Wallet) ซึ่งมีความปลอดภัยสูงกว่าการเก็บไว้บน Exchange ตลอดเวลา

ข้อแนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่

  • ควรลงทุนด้วยเงินเย็นเท่านั้น: ย้ำอีกครั้งว่า ควรใช้ "เงินเย็น" คือเงินที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน หรือเงินที่พร้อมจะเสียได้ทั้งหมด หากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา เพราะสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงมีความเสี่ยงสูงมาก

  • ทยอยลงทุน (Dollar-Cost Averaging - DCA): แทนที่จะลงเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว ลองแบ่งเงินเป็นก้อนเล็กๆ และทยอยซื้อเป็นประจำ เช่น ซื้อทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลง วิธีนี้จะช่วยเฉลี่ยต้นทุนการลงทุนของเรา และลดความเสี่ยงจากการซื้อที่จุดสูงสุด

  • กระจายความเสี่ยง: ไม่ใช่แค่กระจายในสินทรัพย์ดิจิทัลหลายๆ ตัว แต่ควรกระจายไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ด้วย เช่น หุ้น พันธบัตร กองทุนรวม หรือทองคำ เพื่อให้พอร์ตโดยรวมมีความสมดุลและลดความเสี่ยง

  • ศึกษาข้อมูลอยู่เสมอ: โลกของสินทรัพย์ดิจิทัลเปลี่ยนแปลงเร็วมาก สิ่งที่ปังวันนี้ อาจไม่ปังพรุ่งนี้ การติดตามข่าวสาร ทำความเข้าใจเทคโนโลยี และเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญมากครับ/ค่ะ

  • ระวังข่าวลือและ FOMO (Fear Of Missing Out): อย่าลงทุนตามกระแสหรือตามที่คนอื่นบอกโดยที่เรายังไม่ได้ศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง อารมณ์ความกลัวที่จะพลาดโอกาส (FOMO) มักนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดเสมอ

สรุป

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นโอกาสที่น่าสนใจ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงกว่าการลงทุนทั่วไป เนื่องจากตลาดมีความผันผวนที่สูงกว่าปกติ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือ การศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุด เข้าใจในสิ่งที่เราจะลงทุน ลงทุนด้วยเงินที่เราพร้อมจะเสียได้ และ ควบคุมอารมณ์ให้ดี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาด