รู้จัก “หุ้นกู้แปลงสภาพ” ก่อนจะกลายเป็นโอกาสที่คุณมองข้าม

7/27/2025

หุ้นกู้แปลงสภาพ เสี่ยงสูง แต่คุ้มไหม? Blog นี้ มีคำตอบ

ในยุคปัจจุบันที่ดอกเบี้ยเงินฝากแทบไม่ขยับ เศรษฐกิจก็ไม่ดี ของกินของใช้ขึ้นราคาทุกวัน ทำให้หลายคนๆเริ่มมองหาการลงทุนที่ “ให้ผลตอบแทนมากกว่าธนาคาร” และ “อาจได้อะไรมากกว่าแค่ดอกเบี้ย” ้พื่อป้องกันเงินเฟ้อที่อาจจะสูงขึ้นในอนาคต ซึ่งหนึ่งในตัวเลือกที่นักลงทุนทั้งมือใหม่และมือเก๋าชื่นชอบอีกทั้งยังถูกพูดถึงบ่อยนั้นคือ หุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งหลายๆคนอาจจะสงสัยว่าคือตัวกันกับหุ้นกู้ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วมันเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่าหุ้นกู้ทั่วไป ถ้าเข้าใจมันให้ดีพอ

ทำความรู้จักกับหุ้นกู้แปลงสภาพกันดีกว่า

ลองจินตนาการว่าคุณกำลังพิจารณาลงทุนในธุรกิจแห่งหนึ่งนะคะ โดยปกติแล้ว การลงทุนอาจทำได้โดยการให้เงินกู้แก่ธุรกิจนั้นโดยตรง หรือการเข้าเป็นเจ้าของร่วมโดยการซื้อหุ้น ซึ่ง หุ้นกู้แปลงสภาพ เป็นการผสมผสานระหว่างการลงทุนทั้งสองรูปแบบนี้ค่ะ โดยพื้นฐานแล้ว หุ้นกู้แปลงสภาพ คือ ตราสารหนี้ ประเภทหนึ่งที่ออกโดยบริษัท เพื่อระดมเงินทุนจากนักลงทุน โดยบริษัทจะกู้ยืมเงินจากนักลงทุน และมีข้อตกลงว่าจะ "ชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย" ให้ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนดไว้ คล้ายคลึงกับหุ้นกู้ทั่วไป

แต่สิ่งที่ทำให้หุ้นกู้แปลงสภาพมีความพิเศษและแตกต่างออกไปคือ "สิทธิ์ในการแปลงสภาพ" ค่ะ นั่นหมายความว่า นอกจากจะได้รับดอกเบี้ยในฐานะผู้ให้กู้แล้ว นักลงทุนยังมี "ทางเลือก" หรือ "สิทธิ์" ในการ "เปลี่ยน" หรือ "แปลง" หุ้นกู้ดังกล่าวให้เป็น "หุ้นสามัญ" ของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้นั้นๆ ได้ในอนาคต ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ล่วงหน้า

ความแตกต่างที่สำคัญ: หุ้นกู้แปลงสภาพ vs. หุ้นกู้ทั่วไป

  • หุ้นกู้ทั่วไป: เปรียบเสมือนการให้เงินกู้ยืมแก่บริษัทโดยตรง โดยท่านจะได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย และเงินต้นคืนเมื่อครบกำหนดไถ่ถอนเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์อื่นใดเพิ่มเติม

  • หุ้นกู้แปลงสภาพ: นอกจากจะได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยและเงินต้นคืนแล้ว ท่านยังมี "โอกาส" ที่จะเข้าร่วมเป็นเจ้าของบริษัทในอนาคต หากตัดสินใจใช้สิทธิ์แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ ซึ่งจะทำให้ท่านได้รับประโยชน์จากการเติบโตของราคาหุ้นได้อีกด้วย

ใครที่เหมาะกับการลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพ?

การลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพอาจไม่เหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท ผู้ที่ควรพิจารณาการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ ควรต้องมีความรู้ความเข้าใจในลักษณะของหุ้นกู้แปลงสภาพ ดังนี้

  • มีความเข้าใจในความเสี่ยง: ท่านควรทำความเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของราคาหุ้นและความเสี่ยงของบริษัทผู้ออก

  • สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและติดตามข่าวสาร: การศึกษาข้อมูลทางการเงินของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ และติดตามแนวโน้มของตลาดอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจลงทุน

  • สามารถลงทุนได้ในระยะกลางถึงยาว: การลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพมักจะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดเมื่อพิจารณาในระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่การลงทุนระยะสั้น

ทำไมหุ้นกู้แปรสภาพจึงจัดเป็นการลงทุนที่มี "ความเสี่ยงสูงและผลตอบแทนสูง"

ความเสี่ยงในการลงทุนหุ้นกุ้แปรสภาพ

หุ้นกู้แปรสภาพนั้นต้องใช้ความรู้ความเข้าใจ เนื่องจากเป็นตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงมาก เมื่อเทียบกับหตราสารหนี้ทั่วไป ซึ่งความเสี่ยงที่เราต้องพิจารณาก่อนการลงทุนมีดังนี้

  • ความผันผวนของราคาหุ้น: หากตัดสินใจใช้สิทธิ์แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ และราคาหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ มูลค่าการลงทุนอาจลดลงตามไปด้วย

  • ความเสี่ยงของกิจการ: ผลประกอบการหรือสถานะทางการเงินของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้แปลงสภาพมีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจแปลงสภาพ หากบริษัทประสบปัญหา อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ หรือราคาหุ้นที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

  • สภาพคล่อง: หุ้นกู้แปลงสภาพบางรุ่นอาจมีสภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดรองไม่สูงนัก ซึ่งอาจทำให้การขายคืนก่อนครบกำหนดไถ่ถอนเป็นไปได้ยากหากมีความจำเป็นต้องใช้เงิน

ข้อดีของการลงทุนในหุ้นกู้แปรสภาพ

นื่องจากเป็นการให้ผลตอบแทนแบบ “ลูกผสม” ระหว่างความมั่นคงกับโอกาสเติบโต ดังนั้นนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ต้องการโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น ควบคู่กับการมีเกราะป้องกันในระดับหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นสามัยโดยตรง

  • โอกาสในการสร้างกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้น: หากใช้สิทธิ์แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ และราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น ท่านก็มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

  • ได้รับดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ: ในช่วงที่ท่านยังไม่ใช้สิทธิ์แปลงสภาพ ท่านจะยังคงได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยจากหุ้นกู้แปลงสภาพนั้นๆ

  • มีกลไกป้องกันความเสี่ยงในระดับหนึ่ง: หากราคาหุ้นของบริษัทไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ยังสามารถเลือกที่จะถือหุ้นกู้แปลงสภาพต่อไปเพื่อรับดอกเบี้ยจนครบกำหนดไถ่ถอน และรับเงินต้นคืนได้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินต้นเมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นสามัญโดยตรง

ความน่าสนใจในการลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพ

  • การผสมผสานระหว่างความมั่นคงและโอกาสการเติบโต: ในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน หุ้นกู้แปลงสภาพสามารถเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคงจากดอกเบี้ย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังคงเปิดโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นหากราคาหุ้นของบริษัทมีการเติบโต

  • ทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่มีความเข้าใจ: สำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน หรือผู้ที่ต้องการเข้าลงทุนในหุ้นของบริษัทโดยมีกลไกป้องกันความเสี่ยงในระดับหนึ่ง หุ้นกู้แปลงสภาพถือเป็นเครื่องมือที่น่าพิจารณา

  • เพิ่มความยืดหยุ่นให้พอร์ตการลงทุน: การมีหุ้นกู้แปลงสภาพในพอร์ตการลงทุนสามารถช่วยเพิ่มความหลากหลายและยืดหยุ่นในการบริหารจัดการความเสี่ยงและผลตอบแทนได้

แนวทางในการพิจารณาหุ้นกู้แปลงสภาพที่น่าสนใจลงทุน

เมื่อพิจารณาหุ้นกู้แปลงสภาพในประเทศไทย สิ่งสำคัญคือการมองหา "โอกาส" ที่ซ่อนอยู่ในปัจจัยต่างๆ ดังนี้ค่ะ

  1. บริษัทผู้ออกที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี:

    • ทำไมถึงน่าสนใจ? การลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทที่มีพื้นฐานธุรกิจมั่นคง มีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และมีแผนการเติบโตที่ชัดเจน จะช่วยลดความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ และเพิ่มโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต ทำให้การใช้สิทธิ์แปลงสภาพมีความคุ้มค่า

    • วิธีสังเกต:

      • ผลประกอบการย้อนหลัง: ดูงบการเงินว่าบริษัทมีกำไรสม่ำเสมอหรือไม่ มีหนี้สินมากเกินไปหรือเปล่า

      • แนวโน้มอุตสาหกรรม: ธุรกิจของบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวหรือไม่ เช่น เทคโนโลยี พลังงานสะอาด สุขภาพ

      • แผนธุรกิจ: บริษัทมีแผนการขยายกิจการ โครงการลงทุนใหม่ๆ ที่จะส่งเสริมการเติบโตในอนาคตหรือไม่

      • ธรรมาภิบาล: บริษัทมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความโปร่งใสหรือไม่

  2. อัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ที่น่าดึงดูดใจ:

    • ทำไมถึงน่าสนใจ? แม้ว่าโอกาสในการทำกำไรจากราคาหุ้นจะเป็นจุดเด่นของหุ้นกู้แปลงสภาพ แต่ดอกเบี้ยที่ได้รับระหว่างที่ยังไม่แปลงสภาพก็เป็นผลตอบแทนที่แน่นอนและช่วยลดความเสี่ยงลงได้ หากอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าหุ้นกู้ทั่วไปที่มีความเสี่ยงใกล้เคียงกัน ก็จะเพิ่มความน่าสนใจให้กับหุ้นกู้แปลงสภาพนั้นๆ

    • วิธีสังเกต: เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยกับหุ้นกู้ทั่วไปของบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือหุ้นกู้ของบริษัทที่มีอันดับเครดิตใกล้เคียงกัน

  3. ราคาแปลงสภาพและอัตราส่วนการแปลงสภาพที่เอื้อต่อการทำกำไร:

    • ทำไมถึงน่าสนใจ? นี่คือหัวใจสำคัญของการทำกำไรจากหุ้นกู้แปลงสภาพ!

      • ราคาแปลงสภาพ (Conversion Price): คือราคาที่กำหนดไว้ว่าหากท่านต้องการแปลงหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญ จะต้องใช้เงินเท่าไรต่อหนึ่งหุ้น หากราคาแปลงสภาพไม่สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบันมากนัก หรือมีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าราคาหุ้นในอนาคตเมื่อบริษัทเติบโต ก็ถือว่าน่าสนใจ

      • อัตราส่วนการแปลงสภาพ (Conversion Ratio): คือจำนวนหุ้นสามัญที่จะได้รับจากการแปลงหุ้นกู้ 1 หน่วย

    • วิธีสังเกต:

      • เปรียบเทียบราคาแปลงสภาพกับราคาหุ้นปัจจุบันของบริษัท หากราคาแปลงสภาพอยู่ใกล้เคียงกับราคาตลาดปัจจุบัน หรือต่ำกว่าเล็กน้อย แสดงว่ามีโอกาสที่จะทำกำไรได้ง่ายขึ้นเมื่อราคาหุ้นปรับขึ้น

      • พิจารณาส่วนต่าง (Premium) ระหว่างราคาแปลงสภาพกับราคาตลาดหุ้น ณ วันที่พิจารณา หากส่วนต่างนี้ไม่สูงมากนัก ถือว่าดี

      • ดูเงื่อนไขการปรับราคาแปลงสภาพ (Adjustment Clauses) ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนราคาแปลงสภาพได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น กรณีมีการจ่ายเงินปันผลพิเศษ หรือมีการแตกหุ้น

  4. ระยะเวลาการแปลงสภาพที่เหมาะสม:

    • ทำไมถึงน่าสนใจ? ระยะเวลาที่สามารถใช้สิทธิ์แปลงสภาพได้นั้นสำคัญ หากมีระยะเวลาที่ยืดหยุ่นหรือนานพอ จะทำให้นักลงทุนมีเวลาติดตามผลประกอบการของบริษัท และตัดสินใจใช้สิทธิ์แปลงสภาพในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด

    • วิธีสังเกต: พิจารณาว่าช่วงเวลาที่สามารถใช้สิทธิ์แปลงสภาพนั้นสอดคล้องกับแผนการลงทุนของท่านหรือไม่

  5. สภาพคล่องของหุ้นกู้แปลงสภาพในตลาดรอง:

    • ทำไมถึงน่าสนใจ? แม้ว่าหุ้นกู้แปลงสภาพจะออกแบบมาให้ถือจนครบกำหนดหรือแปลงสภาพ แต่หากมีความจำเป็นต้องขายก่อนกำหนด สภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดรองก็เป็นสิ่งสำคัญ หากมีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก จะทำให้สามารถซื้อขายได้ง่ายและได้ราคาที่เหมาะสม

    • วิธีสังเกต: ตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายย้อนหลังในตลาดหลักทรัพย์ (หากมีการซื้อขายในตลาดรอง)

ตัวอย่างหุ้นกู้แปรสภาพของประเทศไทย

บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) – ASW24OA

  • เคยออกหุ้นกู้แปลงสภาพรุ่น ASW24OA โดยกำหนดราคาแปลงสภาพที่ 8.00 บาทต่อหุ้น และอัตราแปลงที่ 1 หน่วยหุ้นกู้ = 125 หุ้น

  • ผู้ลงทุนได้รับสิทธิแปลงสภาพภายในช่วงที่กำหนด เช่น รอบเดือนกันยายน–ตุลาคม 2567

  • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการดอกเบี้ยระหว่างทาง และอาจได้หุ้นราคาต่ำกว่าในตลาดหากราคาหุ้นขึ้นในอนาคต

บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) – TWZ Convertible Debenture รุ่น 1/2567

  • ออกหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่าหน่วยละ 1,000 บาท รวมจำนวนไม่เกิน 250,000 หน่วย รวมวงเงินไม่เกิน 250 ล้านบาท

  • อายุหุ้นกู้ 2.5 ปี (30 เดือน) ดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี จ่ายทุกไตรมาส

  • อัตราแปลงสภาพ: หุ้นกู้ 1 หน่วย แปลงเป็นหุ้นสามัญ ตามราคาแปลงสภาพที่คำนวณเป็น ไม่ต่ำกว่า 90% ของราคาเฉลี่ยตลาดย้อนหลัง 7–15 วัน

  • เน้นเสนอให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) การใช้สิทธิแปลงได้ก่อนหากหุ้นราคาปรับตัวขึ้น ถือเป็นการเปิดโอกาสเติบโตจากการแปลงสภาพได้ทันที

จุดเด่นที่น่าสนใจของหุ้นกู้แปรสภาพทั้ง 2 ชุด

  • มี ดอกเบี้ยประจำ (เช่น TWZ ให้สูงถึง 6.25% ต่อปี)

  • มี โอกาสแปลงเป็นหุ้นราคาถูกกว่าตลาด ถ้าหุ้นขึ้นจริง เช่น ASW ตั้งราคาแปลงไว้ต่ำกว่าราคาในตลาด

  • ไม่ใช่เครื่องมือที่แจกทั่วไป ต้องเสนอเฉพาะ “ผู้ลงทุนเฉพาะกลุ่ม” เช่น ผู้ถือหุ้นเดิม, นักลงทุนสถาบัน หรือ VC/PE

สรุปภาพรวมการลงทุนหุ้นกู้แปรสภาพ

หุ้นกู้แปลงสภาพเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีความซับซ้อนและมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน การทำความเข้าใจในกลไกการทำงาน ประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนอย่างรอบคอบ รวมถึงการศึกษาข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทผู้ออกอย่างถี่ถ้วน เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจลงทุน