จดบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนดี? คู่มือฉบับเจ้าของธุรกิจมือใหม่

8/3/2025

เริ่มธุรกิจแบบมีสเต็ป: เจาะลึกความต่างระหว่างบริษัทและห้างหุ้นส่วน

เคยสงสัยกันมั้ยคะ ทุกวันนี้เราอยากจะเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว แต่ก็ต้องจดทะเบียนนิติบุคคลเยอะแยะไปหมด มีทั้ง "บริษัทจำกัด" และ"ห้างหุ้นส่วนจำกัด" ไม่รู้จะเลือกจดแบบไหนดี วันนี้เรามีบทความดีๆมาฝากกันค่ะ รับรองอ่านปุ๊ป เข้าในง่าย จดทะเบียนนิติบุคคลถูกต้องเลยทีเดียว

บริษัทจำกัด คืออะไร?

บริษัทจำกัด (Company Limited หรือ Co., Ltd.) คือรูปแบบของ “นิติบุคคล” ที่เกิดจากการรวมตัวกันของบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อดำเนินธุรกิจร่วมกัน โดยแต่ละคนจะมีสถานะเป็น “ผู้ถือหุ้น” และรับผิดชอบในกิจการ เท่ากับจำนวนเงินที่ตนเองลงทุนไว้เท่านั้น ไม่ต้องรับผิดชอบหนี้สินส่วนเกินของบริษัทจากทรัพย์สินส่วนตัว

ข้อดีของบริษัทจำกัด

  • จำกัดความรับผิดชอบ: ผู้ถือหุ้นจะรับผิดชอบหนี้สินของบริษัทเพียงเท่ากับ "มูลค่าหุ้นที่ยังชำระไม่ครบ" เท่านั้น ทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ถือหุ้นจะไม่ถูกนำมาใช้ชดใช้หนี้สินของบริษัท ทำให้ความเสี่ยงส่วนตัวลดลง

  • ความน่าเชื่อถือสูง: การจดทะเบียนในรูปแบบบริษัทจำกัดช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ ทำให้ง่ายต่อการติดต่อกับสถาบันการเงิน ลูกค้า หรือคู่ค้า

  • โอกาสในการระดมทุน: หากธุรกิจเติบโตและต้องการขยายกิจการ สามารถระดมทุนได้ง่ายกว่าโดยการเพิ่มทุนหรือเสนอขายหุ้นให้แก่นักลงทุนรายใหม่

  • สิทธิประโยชน์ทางภาษี: บริษัทจำกัดมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในบางกรณี

ข้อเสียของบริษัทจำกัด

  • ค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งสูง: การจดทะเบียนมีค่าใช้จ่าย และมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด

  • ขั้นตอนทางบัญชีที่ซับซ้อน: ต้องมีการจัดทำบัญชีและงบการเงินที่เป็นมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชี

  • กฎระเบียบและข้อบังคับ: บริษัทจำกัดมีกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เช่น การจัดประชุมผู้ถือหุ้น และการยื่นงบการเงินประจำปี

ห้างหุ้นส่วนจำกัด คืออะไร?

ห้างหุ้นส่วนจำกัด คือ ธุรกิจที่มีหุ้นส่วนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมาร่วมลงทุน โดยจะแบ่งประเภทของหุ้นส่วนออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

  1. หุ้นส่วนจำกัดความรับผิด: รับผิดชอบหนี้สินของห้างหุ้นส่วนเพียงเท่ากับจำนวนเงินที่ตนนำมาลงทุนเท่านั้น แต่จะไม่มีสิทธิเข้าบริหารจัดการกิจการ

  2. หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด: ต้องรับผิดชอบหนี้สินของห้างหุ้นส่วนทั้งหมดโดยไม่จำกัดจำนวน รวมถึงทรัพย์สินส่วนตัวด้วย และมีสิทธิเข้าบริหารกิจการได้อย่างเต็มที่

ข้อดีของห้างหุ้นส่วนจำกัด

  • ขั้นตอนการจัดตั้งง่ายกว่า: มีขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนที่น้อยกว่าบริษัทจำกัด

  • ความยืดหยุ่นในการบริหาร: หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดสามารถตัดสินใจและบริหารงานได้รวดเร็ว

  • การจัดเก็บภาษี โดยปกติห้างหุ้นส่วนจำกัดจะถูกจัดเก็บภาษีในลักษณะเดียวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งในบางกรณีอาจมีภาระภาษีที่ต่ำกว่าบริษัทจำกัด

ข้อเสียของห้างหุ้นส่วนจำกัด

  • ความเสี่ยงสูง: หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดจะต้องรับผิดชอบหนี้สินทั้งหมดของห้างหุ้นส่วน รวมถึงทรัพย์สินส่วนตัว ซึ่งมีความเสี่ยงสูง

  • ความน่าเชื่อถือต่ำกว่า: ห้างหุ้นส่วนจำกัดอาจดูมีความน่าเชื่อถือและความมั่นคงน้อยกว่าบริษัทจำกัด ทำให้การติดต่อกับคู่ค้าหรือสถาบันการเงินขนาดใหญ่เป็นไปได้ยาก

  • ระดมทุนยาก: การระดมทุนเพิ่มเติมทำได้ยากกว่าบริษัทจำกัด

แล้วควรเลือกลดทะเบียนบริษัทแบบไหนดีกว่ากันล่ะ ต้องบอกไว้ก่อนว่าไม่มีคำตอบที่ "ดีที่สุด" หรือ "แย่ที่สุด" เพราะแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป และเหมาะกับธุรกิจที่ไม่เหมือนกันค่ะ แต่เราสามารถพิจารณาจากปัจจัยสำคัญๆ ได้ 3 ข้อหลักๆ ดังนี้

  1. ธุรกิจของคุณใหญ่แค่ไหน และมีแผนจะขยายในอนาคตหรือไม่?

    ถ้าธุรกิจของคุณเป็นร้านเล็กๆ ขายของออนไลน์คนเดียว หรือทำธุรกิจกับเพื่อนสนิทกันไม่กี่คน และยังไม่แน่ใจว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน การจดทะเบียนในรูปแบบห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะมีขั้นตอนง่ายกว่าและค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นไม่สูงมากนัก แต่ถ้าคุณมีแผนจะขยายธุรกิจให้เติบโตในวงกว้าง มีเป้าหมายในการระดมทุนจากนักลงทุนภายนอกในอนาคต หรือต้องการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณ การจดทะเบียนบริษัทจำกัด จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า เพราะโครงสร้างของบริษัทจำกัดจะเอื้อต่อการเติบโตและการระดมทุนได้มากกว่า

    2. คุณรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน?

    นี่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลยล่ะค่ะ เพราะการจดทะเบียนแต่ละแบบมีระดับความรับผิดชอบในหนี้สินของธุรกิจไม่เหมือนกัน

    • บริษัทจำกัด: ความรับผิดชอบจะจำกัดแค่ "มูลค่าหุ้นที่ชำระไม่ครบ" เท่านั้น นั่นหมายความว่าถ้าธุรกิจล้มละลาย ทรัพย์สินส่วนตัวของคุณ เช่น บ้าน รถยนต์ จะไม่ถูกนำมาใช้ชดใช้หนี้ของบริษัทเลย

    • ห้างหุ้นส่วนจำกัด: จะมีทั้งหุ้นส่วนที่รับผิดชอบจำกัด (รับผิดชอบเท่ากับเงินลงทุน) และหุ้นส่วนที่รับผิดชอบไม่จำกัด (รับผิดชอบหนี้สินทั้งหมด) ถ้าคุณเป็นหุ้นส่วนที่รับผิดชอบไม่จำกัด ต้องเตรียมใจว่าทรัพย์สินส่วนตัวจะถูกนำมาใช้ชดใช้หนี้ได้

    • ห้างหุ้นส่วนสามัญ/เจ้าของคนเดียว: ทั้งหมดถือเป็นความรับผิดชอบของตัวคุณเองทั้งหมด

    ถ้าคุณไม่อยากแบกรับความเสี่ยงที่อาจจะกระทบกับทรัพย์สินส่วนตัวในอนาคต การจดทะเบียนในรูปแบบบริษัทจำกัด จึงเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดค่ะ

    3. คุณต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษีแบบไหน?

    โครงสร้างภาษีของแต่ละรูปแบบธุรกิจก็ไม่เหมือนกัน

    • บริษัทจำกัด: เสียภาษีในอัตรา "ภาษีเงินได้นิติบุคคล" ซึ่งมักจะต่ำกว่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากธุรกิจของคุณมีรายได้ที่สูง การจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดอาจช่วยลดภาระภาษีในระยะยาวได้มากกว่า

    • ห้างหุ้นส่วนสามัญ: เสียภาษีในอัตรา "ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา" ซึ่งในบางกรณีอาจจะมีอัตราสูงกว่า

สรุปเคล็ดลับง่ายๆ ในการตัดสินใจ

  • เริ่มจากเล็กๆ ไปก่อน: ถ้าคุณยังใหม่กับธุรกิจ และอยากลองตลาด ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด คือจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ต้องเข้าใจเรื่องความรับผิดชอบในหนี้สินให้ดีก่อน

  • วางแผนเพื่อเติบโต: ถ้ามีทุนพอและต้องการสร้างธุรกิจให้มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว บริษัทจำกัด คือตัวเลือกที่เหมาะที่สุด

  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ถ้ายังไม่แน่ใจจริงๆ การปรึกษานักบัญชีหรือนักกฎหมายจะเป็นประโยชน์อย่างมากครับ เพราะเขาจะสามารถให้คำแนะนำที่เหมาะกับธุรกิจของคุณได้แบบเจาะลึก

การเลือกจดทะเบียนบริษัทถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญมากๆ เพราะส่งผลกับธุรกิจของคุณในระยะยาว ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจนะคะ