5 ข้อสำคัญก่อนลงทุนหุ้นต่างประเทศ

9/14/2025

5 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนในหุ้นต่างประเทศ: เจาะลึกการลงทุนในตลาดต่างประเทศ

ปัจจุบันการลงทุนไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่แค่ตลาดหุ้นไทย นักลงทุนสามารถขยายพอร์ตไปยัง หุ้นต่างประเทศ ได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน และกระจายความเสี่ยงจากปัจจัยในประเทศ แต่ก่อนที่จะก้าวออกไปลงทุนในตลาดโลก มีหลายสิ่งที่นักลงทุนควรรู้และทำความเข้าใจ ซึ่งบทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึก 5 ข้อสำคัญที่ต้องรู้ก่อนลงทุนหุ้นต่างประเทศ เพื่อให้เราลงทุนได้อย่างมั่นใจและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

ทำไมต้องลงทุนในหุ้นต่างประเทศ?

  1. โอกาสในการเติบโตสูงกว่า: หลายบริษัทระดับโลก เช่น Apple, Microsoft, Tesla หรือ Alibaba มีอัตราการเติบโตที่น่าดึงดูดกว่าตลาดหุ้นไทย

  2. กระจายความเสี่ยง: ไม่ต้องพึ่งพาเศรษฐกิจไทยเพียงอย่างเดียวและเศรษฐกิจในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มีความแข็งแกร่งและมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลก

  3. เข้าถึงอุตสาหกรรมใหม่ ๆ: เทคโนโลยี, พลังงานสะอาด, AI, เฮลท์แคร์ ที่อาจยังไม่มีในตลาดไทย

  1. ศึกษาข้อมูลตลาดหุ้นต่างประเทศที่เราสนใจ ก่อนการลงทุนทุกครั้งเราต้องศึกษาข้อมูลตลาดในประเทศนั้นๆและอุตสาหกรรมที่เราสนใจก่อนเพราะมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่าการลงทุนในประเทศ และผู้ลงทุนต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยทั้งด้านบวกและลบที่จะมีผลกระทบต่อการลงทุน นอกจากนี้ เราจำเป็นต้องคอยติดตามข้อมูลสำคัญที่จะใช้ประกอบการพิจารณาตัดสินใจลงทุนเองด้วย​ โดยตัวอย่างตลาดต่างประเทศที่นักลงทุนส่วนใหญ่จะชอบลงทุน เช่น ตลาดสหรัฐฯ, ตลาดจีน, ตลาดเวียดนาม เป็นต้น

  2. เข้าใจเรื่องความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินต่างประเทศ การลงทุนในหุ้นต่างประเทศไม่ใช่แค่ดูราคาหุ้น แต่ยังต้องคำนึงถึง อัตราแลกเปลี่ยน ด้วย เพราะกำไรหรือขาดทุนอาจเกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนมากกว่าตัวหุ้นเอง เช่น

    • ถ้าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินบาทในตอนที่คุณขายหุ้น คุณจะได้เงินบาทกลับมาในจำนวนที่มากขึ้น นั่นเท่ากับว่าคุณได้กำไรสองต่อ

    • ถ้าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินบาทในตอนที่คุณขายหุ้น แม้ว่าราคาหุ้นจะขึ้น แต่เมื่อแลกกลับเป็นเงินบาทแล้วอาจได้กำไรน้อยลง หรืออาจขาดทุนอีกด้วย

    ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ควรเลือกลงทุนผ่านกองทุนหรือตราสารที่ “ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Hedging)” ได้ หรืออาจจะเลือกแบบไม่ป้องกันความเสี่ยงเพื่อเกร็งกำไรก็ได้

  3. คำนึงถึงต้นทุนและค่าธรรมเนียม ซึ่งแต่ละประเทศมีกฎการซื้อขายหุ้นต่างกัน เช่น ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย, ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนเงิน,ภาษี ซึ่งจากที่กล่าวมานั้นเป็นต้นทุนที่แฝงของเราทั้งสิ้น ดังนั้นเราควรศึกษาข้อกำหนด กฎเกณฑ์ก่อนการลงทุนทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจให้เกิดผลขาดทุนได้

  4. เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม การจะซื้อขายหุ้นต่างประเทศ คุณไม่สามารถเดินไปซื้อที่ตลาดหลักทรัพย์ได้โดยตรงครับ ต้องใช้บริการ โบรกเกอร์ หรือบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งโบรกเกอร์แต่ละแห่งก็มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป เช่น โบรกเกอร์ต่างประเทศโดยตรง ซึ่ง เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้นรายตัว เช่น Apple, Tesla, โบรกเกอร์ไทยที่มีบริการ Global Investing: ซื้อขายหุ้นต่างประเทศผ่านแอปในไทยได้เลย เช่น SCB, KBank, Bualuang, กองทุนรวมต่างประเทศ (FIF): เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาเลือกหุ้นเอง ลงทุนผ่านกองทุนที่ผู้จัดการกองทุนคัดเลือกมาให้ สุดท้าย ETF (Exchange Traded Fund): เหมาะกับมือใหม่ กระจายการลงทุนในหุ้นหลายตัวพร้อมกัน เช่น ETF ที่ลงทุนในดัชนี S&P500 แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากหน่วยงานกำกับดูแลของทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อความปลอดภัยของเงินลงทุนของคุณเอง

  5. ต้องมีวินัยในการลงทุนและมุมมองระยะยาว เนื่องจากหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดใหญ่ ๆ เช่น สหรัฐฯ หรือยุโรป มีความผันผวนสูง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากนโยบายทางเศรษฐกิจและการเมืองอีกด้วย ดังนั้นการลงทุนควรโฟกัสที่ ภาพรวมระยะยาว มากกว่าราคาขึ้นลงรายวัน

5 ข้อสำคัญที่ต้องรู้ก่อนลงทุนหุ้นต่างประเทศ

สรุป

ปัจจุบันนี้เราสามารถเริ่มการลงทุนหุ้นต่างประเทศได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ, ลงทุนใน ETF ต่างประเทศ หรือลงทุนหุ้นต่างประเทศแบบรายตัว และที่สำคัญ คือเลือกลงทุนกับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ จึงควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนเริ่มต้นลงทุน เพื่อให้เราได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด