รู้จักการคำนวณ LTV (Loan To Value) และดอกเบี้ยบ้าน ที่ธนาคารไม่เคยบอก
6/29/2025
รู้จัก LTV (Loan To Value) และดอกเบี้ยบ้าน ตัวช่วยสำหรับมือใหม่อยากมีบ้าน


เนื้อหาในบทความนี้ (คลิกเพื่ออ่านพาร์ทที่สนใจได้เลย!!)
กองทุน Thai ESG คืออะไร?
เทรนด์เด่น ๆ ของกองทุน ESG ที่ต้องรู้!
สรุปการลงทุน กองทุน Thai ESG เหมาะกับใคร?
LTV (Loan To Value) และอัตราดอกเบี้ยคืออะไร สำคัญยังไงกับคนซื้อบ้าน?
ถ้าคุณกำลังวางแผนจะซื้อบ้านหลังแรก หรือกำลังสงสัยว่าทำไมธนาคารถึงให้กู้น้อยกว่าราคาบ้าน แค่เราต้องทำความเข้าใจกับสองคำนี้ให้ดี นั่นก็คือ LTV และ อัตราดอกเบี้ย นั่นเองค่ะ ซึ่งอาจจะฟังดูเหมือนยาก แต่ที่จริงไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ เราไปเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
มาเริ่มกันที่ตัวแรกที่เรียกว่า LTV ( Loan to Value) คืออัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน เป็นตัวชี้วัดทางการเงินที่สถาบันการเงินใช้ในการประเมินความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ฟังดูเป็นคำเฉพาะทาง แต่จริงๆ คือ อัตราส่วนระหว่าง "วงเงินกู้" ที่คุณได้รับ กับ "มูลค่าของบ้าน" ที่คุณนำมาเป็นหลักประกันนั่น
สูตรคำนวณ LTV = (วงเงินกู้ที่ได้รับ / มูลค่าหลักประกัน) x 100%
ความน่าสนใจในการลงทุน "กองทุน ESG"
ประโยชน์ในการลงทุน กองทุน ESG
ลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนและความเสี่ยงต่ำ ในระยะยาว เนื่องจากบริษัทที่ดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม และมีการบริหารงานที่ดี มักจะมีชื่อเสียงที่ดี ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าและพนักงาน แถมยังลดความเสี่ยงจากการโดนฟ้องร้อง หรือปัญหาอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้บริษัทเหล่านี้มีโอกาสเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว อีกทั้งยังสามารถลดความเสี่ยงได้ในระยะยาว ให้ลองนึกภาพว่าถ้าบริษัทสร้างมลพิษเยอะ ๆ อาจโดนปรับหรือถูกต่อต้านได้ หรือถ้าดูแลพนักงานไม่ดีก็อาจมีปัญหาแรงงาน การลงทุนในบริษัทที่ใส่ใจ ESG จึงช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ ทำให้เงินของเราปลอดภัยมากขึ้นค่ะ
การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เมื่อนักลงทุนเลือกที่จะลงทุนในกองทุน ESG เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกไปยังบริษัทต่าง ๆ ให้หันมาให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น ซึ่งเป็นการร่วมขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาพรวม และเงินลงทุนในกองทุน ESG มีส่วนช่วยสนับสนุนบริษัทที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ ของโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การขาดแคลนทรัพยากร หรือความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งทำให้นักลงทุนรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
ความสะดวกสบายและกระจายความเสี่ยง การบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญ: กองทุน ESG มีผู้จัดการกองทุนที่มีความรู้ความเข้าใจในการวิเคราะห์ปัจจัย ESG คอยคัดเลือกและบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้ ซึ่งช่วยลดภาระและความซับซ้อนในการตัดสินใจลงทุน สำหรับนักลงทุนมือใหม่ แลกองทุน ESG ลงทุนในหลักทรัพย์ของหลายบริษัทในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงและลดผลกระทบหากหลักทรัพย์ใดหลักทรัพย์หนึ่งมีผลงานไม่ดี
เทรนด์เด่น ๆ ของกองทุน ESG ที่ต้องรู้!
ปัจจุบันการลงทุนในกองทุน ESG ไม่ได้เป็นแค่กระแสชั่วคราว แต่กำลังกลายเป็น "เมกะเทรนด์" ที่ขับเคลื่อนตลาดการเงินทั่วโลก ด้วยความตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นของผู้คนเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ทำให้เม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาลไหลเข้าสู่สินทรัพย์ที่คำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะมาดูกันว่าเทรนด์การลงทุนในกองทุน ESG ที่น่าจับตามองมีอะไรบ้าง:
1. เงินไหลเข้าต่อเนื่องทั่วโลก: ตอกย้ำความนิยมที่ยั่งยืน
เติบโตไม่หยุด: ข้อมูลจากหลายสำนักวิจัยแสดงให้เห็นว่าเงินลงทุนในกองทุน ESG ทั่วโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อแนวคิดการลงทุนแบบยั่งยืน
จากยุโรปสู่เอเชีย: เดิมทีกระแส ESG ได้รับการผลักดันอย่างมากในยุโรปและอเมริกาเหนือ แต่ตอนนี้เอเชียกำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของการลงทุน ESG เนื่องจากหลายประเทศในเอเชียเริ่มให้ความสำคัญกับการพัฒนาพลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวมากขึ้น
2. ไม่ใช่แค่ "รักษ์โลก" แต่ "ทำกำไร" ได้จริง!
ผลตอบแทนที่น่าสนใจ: ในช่วงแรกหลายคนอาจกังวลว่าการลงทุนใน ESG จะทำให้ผลตอบแทนไม่ดีเท่าการลงทุนแบบปกติ แต่ข้อมูลเริ่มแสดงให้เห็นว่าบริษัทที่มี ESG ที่แข็งแกร่งมักจะมีความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว และบางครั้งก็ทำได้ดีกว่าตลาดโดยรวมด้วยซ้ำค่ะ เพราะบริษัทเหล่านี้มีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ดีกว่าเมื่อเกิดวิกฤตหรือความเปลี่ยนแปลง
ปัจจัย ESG เป็นตัวขับเคลื่อนผลตอบแทน: มีงานวิจัยที่ชี้ว่าปัจจัย ESG มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนผลตอบแทนทางการเงินในระยะกลางของบริษัท โดยเฉพาะบริษัทที่มุ่งมั่นพัฒนาในด้าน ESG อย่างจริงจัง
3. กฎระเบียบเข้มข้นขึ้น: ดันให้บริษัทต้องปรับตัว
รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลผลักดัน: ทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะออกกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับ ESG มากขึ้น เช่น มาตรฐานการรายงานข้อมูล ESG ที่เข้มงวดขึ้นในยุโรป หรือการพัฒนามาตรฐานคาร์บอนเครดิตในไทย สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้บริษัทต่าง ๆ ต้องปรับตัวและเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG อย่างโปร่งใสมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการลงทุน ESG
ความเสี่ยงจากการไม่ปรับตัว: บริษัทที่ไม่ยอมปรับตัวตามเทรนด์ ESG อาจเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการถูกปรับ การถูกคว่ำบาตร หรือเสียโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทำให้หุ้นของบริษัทเหล่านี้อาจได้รับผลกระทบในระยะยาวค่ะ
4. กองทุน Thai ESG: ลดหย่อนภาษีได้ ถือครองสั้นลง!
มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ: รัฐบาลไทยก็สนับสนุนการลงทุน ESG อย่างเต็มที่ โดยได้ออกกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ "กองทุน Thai ESG" มาเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการลดหย่อนภาษี
สิทธิประโยชน์น่าสนใจ: กองทุน Thai ESG มีจุดเด่นคือ สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท (ไม่รวมกับ SSF/RMF) และมีระยะเวลาการถือครองที่สั้นลงเหลือเพียง 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีและลงทุนในบริษัทไทยที่ใส่ใจ ESG ไปพร้อมกัน
5. ธีมการลงทุน ESG ที่มาแรง: มุ่งเน้นพลังงานสะอาดและสังคม
ClimateChange (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ): ธีมนี้ยังคงเป็นกระแสหลักที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน เทคโนโลยีสีเขียว และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
Social Impact (ผลกระทบทางสังคม): การลงทุนที่เน้นแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ การส่งเสริมสุขภาพ การศึกษา และการสร้างความมั่นคงทางอาหารก็เป็นอีกหนึ่งธีมที่น่าจับตา เพราะบริษัทที่ใส่ใจสังคมมักจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและลดความเสี่ยงด้านชื่อเสียงได้
Green Bonds / Social Bonds: นอกจากหุ้นแล้ว ตราสารหนี้ที่ออกเพื่อระดมทุนไปใช้ในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Bond) หรือโครงการเพื่อสังคม (Social Bond) ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน
สรุปการลงทุน กองทุน Thai ESG เหมาะกับใคร?
ใครเหมาะกับกองทุน Thai ESG?
การลงทุน กองทุน Thai ESG ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ว่าต้องถามตัวเองก่อนว่าต้องการลงทุนไปเพื่ออะไร ซึ่งเรามี Checklist มาให้ค่ะ ว่าคุณเหมาะกับการลงทุนแบบนี้หรือเปล่า แบบตัวอย่างด้านล่างค่ะ
อยากลดหย่อนภาษี และกำลังมองหาช่องทางใหม่ ๆ
สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและสังคม และอยากให้เงินลงทุนของคุณมีส่วนช่วยพัฒนาประเทศ
อยากเริ่มต้นลงทุน แต่ยังไม่มีความรู้มากนัก เพราะกองทุนนี้มีผู้จัดการมืออาชีพคอยดูแลให้
อยากลงทุนในระยะปานกลาง (8 ปี) ไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไป
เริ่มต้นลงทุนในกองทุน Thai ESG ง่าย ๆ
สำหรับผู้เริ่มต้น การลงทุนในกองทุนรวมนั้นง่ายมากค่ะ คุณสามารถติดต่อ ธนาคาร หรือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่ต้องเปิดบัญชีและลงทุนในกองทุน Thai ESG เจ้าหน้าที่ก็จะให้คำแนะนำและช่วยคุณเปิดบัญชีได้ทันที
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนลงทุน:
ศึกษาข้อมูลกองทุน: แม้จะเป็นกองทุน Thai ESG เหมือนกัน แต่แต่ละบลจ. ก็จะมีนโยบายการลงทุนที่แตกต่างกันบ้าง สามารถขอ "หนังสือชี้ชวน" มาอ่านเพื่อทำความเข้าใจก่อน ในนั้นจะมีข้อมูลสำคัญครบถ้วน
พิจารณาความเสี่ยง: การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง แม้กองทุน Thai ESG จะเน้นบริษัทที่ดี แต่ก็ยังมีความผันผวนของราคาหุ้นได้ คุณควรทำความเข้าใจระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตัวเองก่อนตัดสินใจ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจ สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่หรือผู้แนะนำการลงทุน เขาจะช่วยแนะนำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณได้
Finance
Simplifying finance for everyday workers and investors.
Contact us
moneysummary.io@gmail.com
"Please contact us by writing the email subject as 'Contact Moneysummary.io Website."
© 2025. All rights reserved.